วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มะม่วงติดบาร์โค้ด


การ ลงทะเบียนผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ในปีนี้ สรุปผล มีจำนวน 292 ราย 759 ผลิตภัณฑ์ มากกว่าเมื่อครั้งปี 2551 ที่มีจำนวน 267 ราย 591 ผลิตภัณฑ์ ส่วนการคัดสรรสุดยอด OTOP ไทย ของจังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 96 ราย 96 ผลิตภัณฑ์ ผลการคัดสรรจะแจ้งให้ทราบในเดือนกันยายนนี้ ในการลงทะเบียนคราวนี้ มีผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจ คือ มะม่วงติดบาร์โค้ด ของสหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา จำกัด นอกจากจะเป็นผู้ส่งออกมะม่วงรายใหญ่แล้ว เขายังมีนวัตกรรมที่น่าทึ่งอีกด้วย ต่อไปนี้ คุณศักดิ์ดา ขันติพะโล ประธานคณะผู้บริหารสหกรณ์ฯ จะเล่าให้เราฟังครับ...


รวมตัวเข้มแข็ง ดำเนินการมั่นคง…
ชมรม ชาวสวนจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน ต่อมาปี 2541 ได้มีการรวมตัวกันอย่างจริงจัง และเริ่มผลิตมะม่วงส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ในปี 2549 ชมรมฯ ได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา มุ่งเน้นการผลิตมะม่วงให้มีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ปัจจุบันมีสมาชิก 176 คน พื้นที่ปลูกมะม่วงของสมาชิก กว่า 10,000 ไร่ แยกเป็น สายพันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4 และสีทอง 7,000 ไร่ เขียวเสวย 2,000 ไร่ อื่น ๆ 1,000 ไร่ ผลผลิตที่ผลิตได้ปีละ ประมาณ 7,000 ตัน สหกรณ์ฯ มีการสร้างสำนักงานเพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิตมะม่วง ที่จะจัดส่งให้กับบริษัทผู้ส่งออกต่างๆ และเป็นแหล่งบริการข้อมูล มีการซื้อขายกับบริษัทต่างๆ มากกว่า 15 บริษัท ที่จัดส่งมะม่วงไปยังประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป และอเมริกา ส่วนในประเทศมีการจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ ภายใต้ชื่อการค้าว่า “ทองแปดริ้ว” และจำหน่ายทั่วไป ภายใต้ชื่อมะม่วง QM และตะวัน


คุณภาพมาตรฐานเพื่อการส่งออก…
สหกรณ์ฯ มีการพัฒนาสมาชิกเกษตรกร ด้วยการให้ความรู้ การพัฒนาผลผลิต พัฒนาองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล และพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลผลิตและการบริหารจัดการที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะการผลิตเพื่อการส่งออก เกษตรกรต้องปฏิบัติดูแลสวนถูกต้องตามหลักวิชาการระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (EUREP GAP) ห่อผลด้วยวัสดุที่เหมาะสมในช่วงระยะ 2 เดือนก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต น้ำหนักของผลจะต้องได้ตามมาตรฐานที่กำหนดร่วมกัน ลักษณะของผิวต้องไม่มีรอยแผลที่เกิดจากโรคและแมลง คราบยาง รอยช้ำจากการกระแทก ลักษณะของผลมะม่วงต้องตรงตามพันธุ์ การเก็บมะม่วงที่ความแก่ 85-90 % ตามดัชนีการเก็บเกี่ยวมะม่วง ห่อหุ้มผลมะม่วงด้วยตาข่ายโฟมก่อนบรรจุลงภาชนะ



วิธีรับประทานมะม่วงให้ได้ รสชาดหวาน…
มะม่วง น้ำดอกไม้ที่ไม่สุกจะมีรสเปรี้ยว ถ้าสุกแล้วจะมีรสหวาน มีปัญหาว่า จะรับประทานได้ในวันที่เท่าไร วิธีแก้ปัญหานี้ สหกรณ์ได้คิดสติกเกอร์เพื่อเทียบสีผิวมะม่วงขึ้น โดยติดไว้ที่ผลมะม่วงทุกผล ถ้าต้องการรับประทานทันที ให้เลือกผลที่นิ่มมือและสีผิวเป็นแบบสีเหลืองส้ม ถ้าต้องการเป็นของฝาก ให้เลือกผิวสีเหลืองนวล วิธีนี้จะทำให้ผู้บริโภคทราบได้ทันทีว่า จะทานเมื่อไร จึงจะได้รสชาดหวาน

ตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ทุกผล…
สหกรณ์ฯ มุ่งเน้นผลิตมะม่วงให้มีคุณภาพปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง และตระหนักถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง จึงพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับถึงเกษตรกรผู้ผลิต ว่ามะม่วงผลนี้มีประวัติ ความเป็นมาอย่างไร ใครคือผู้ผลิต แหล่งผลิตอยู่ที่ไหน วิธีการผลิต การใส่ปุ๋ยและสารเคมี เป็นอย่างไร ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้ จากสติกเกอร์ที่มีหมายเลขรหัสสมาชิกที่ติดบนผลมะม่วงโดยนำรหัสนี้พิมพ์ตรวจ สอบบนเว็บไซต์
www.coopthai.com/mangoccs ซึ่งสหกรณ์ฯ พัฒนาให้มีข้อมูลทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น เป็นระบบข้อมูลสาธารณะ ตรวจสอบได้ทั่วโลก
กิจกรรมเสริมให้กับสมาชิก...
ปัจจุบัน สหกรณ์ฯ มีบริการจำหน่ายปุ๋ย และสารเคมีให้แก่สมาชิก ซึ่งราคาถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากสหกรณ์ฯ สั่งซื้อมาครั้งละมากๆ นอกจากนี้สมาชิกยังได้รับเงินเฉลี่ยคืนจากสหกรณ์อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนอนาคต สหกรณ์ฯ กำลังให้ความสนใจศึกษาผลิตภัณฑ์ยางพารา ซึ่งอาจจะดำเนินการร่วมกันไปกับมะม่วงก็ได้

ต้องการเยี่ยมชมกิจการ หรือติดต่อซื้อผลผลิต หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อที่ สหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา จำกัด
97/5 ม.1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 24120
โทร. 081-930-5052 , 085-437-2029 แฟ็กซ์ 038-502198
หรือที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.038-511239

ผม ไปเยี่ยมบริษัท กลุ่ม องค์กรมาหลายแห่ง ประทับใจที่นี่มาก มีความเข้มแข็ง มีนวัตกรรมที่น่าสนใจ ข้อมูลและการนำเสนอของเขาดีและหลากหลาย ทั้งวีดิทัศน์ PowerPoint แผ่นพับ เอกสาร บอร์ดประชาสัมพันธ์ต่างๆ ผมว่านี่เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจ สำหรับชาวแปดริ้วครับ...
 
ข้อมูลจากนิตยสาร "ที่นี่แปดริ้ว"
 

เรือนสมุนไพร...1 ใน 20 สปาต้นแบบของไทย


ประเด็น วันนี้ คือ เราสนใจเรื่องสุขภาพไหม อยากมีชีวิตที่ยืนยาวหรือเปล่า เชื่อว่า คนปกติทั่วไป จะตอบว่าอยากมีชีวิตที่ยืนยาว แต่ความจริง คนส่วนใหญ่ปฏิบัติต่อสุขภาพ ผิดหลักการที่จะทำให้ชีวิตยืนยาว พิสูจน์จากสถิติคนทั่วโลก ที่ตายด้วยโรคหัวใจ และโรคมะเร็ง มากขึ้น ผมจึงขอแนะนำให้รู้จักกับผู้ประกอบการ OTOP รายหนึ่ง ที่ประกอบการเกี่ยวกับสปา ซึ่งไม่ใช่แค่นวดและอบสมุนไพร เท่านั้น แต่มีความรู้ในเรื่องการสร้างสุขภาพที่ดีด้วย...

ก่อนจะมาเป็นเรือนสมุนไพร...
เภสัชกร หญิงกิตติธร ปานเทศ หรือคุณมะเหมี่ยว เจ้าของกิจการ เล่าให้ฟัง ย้อนกลับไป 8 ปีก่อน หลังจากรับราชการมาได้ 4 ปี เรียนและทำงานด้านยามาตลอด พบปัญหาว่า บางครั้งการพึ่งพายาทำให้เกิดโรคเรื้อรัง คนไข้ที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นโรคแล้วรักษาไม่หาย จึงมีความสนใจเรื่องธรรมชาติบำบัด
คือ การรักษาสุขภาพ รักษาโรคโดยไม่ใช้ยา จากนั้นอ่านหนังสือ ค้นคว้าตำรับตำรา ทั้งของไทยและต่างประเทศมากขึ้น เข้าเรียนการนวด อบสมุนไพร และทดลองใช้องค์ความรู้ต่างๆ กับตัวเอง เมื่อได้ผลดี สุดท้ายมีแนวคิดว่า อยาก ให้ผู้อื่นได้สัมผัสกับความสุข สบาย สงบ รู้สึกผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา และมีสุขภาพดี จึงก่อตั้งธุรกิจสปาขึ้น ชื่อว่า “เรือนสมุนไพรสปา” เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2545

อัตลักษณ์ที่โดดเด่น...
เรามีดีที่ใช้ “หลักธรรมชาติบำบัดแบบองค์รวม”
ในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ องค์ความรู้ที่ใช้ ได้แก่
1. หัตถศาสตร์บำบัด คือ การนวดทั้งแบบสวีดิช ไทย และไทยผสมสวีดิช
2. วารีบำบัด คือ การอบไอน้ำสมุนไพร การแช่
3. สุคนธบำบัด คือ การใช้สมุนไพรสดในการบำบัดร่วมกับการอบสมุนไพร
4. โภชนาการบำบัด คือ การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับร่างกาย
เรามีบริการนวดไทยที่มีเอกลักษณ์
และ การทำทรีทเม้นต์จากเครื่องสำอางธรรมชาติ ช่วยล้างพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย เรามีความเชี่ยวชาญในการดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตามหลักการดูแลสุขภาพ 7 ประการ คือ ดื่มน้ำดี … อาหารดี … ขับถ่ายดี … อากาศดี … สมาธิดี … ออกกำลังกายดี … และนอนหลับดี...

ผลิตภัณฑ์และบริการ...
ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ เรือนสมุนไพร ที่คิดค้นขึ้นมาเอง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ และสารสกัดจากถั่วเหลือง ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จากกระทรวงอุตสาหกรรม และเป็น OTOP ระดับ 4 ดาว ปี 2552 บริการหลักในสปา ได้แก่ การนวดไทย การใช้ลูกประคบ การอบสมุนไพร การใช้สมุนไพรไทย สารสกัดจากธรรมชาติ อาหารไทย ผลไม้ไทย ดนตรีไทย ผสานกับการใช้น้ำเพื่อการบำบัด เช่น อบสมุนไพรและการแช่น้ำ

คุ้มค่าทุกบริการ...
ก่อนบริการ มีการวินิจปัญหาเบื้องต้น สอบถามพฤติกรรมการใช้ชีวิต และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง การให้บริการมีหลายโปรแกรมให้เลือก เช่น โปรแกรมนวดบำบัดผิวกาย 2 ช.ม.20 นาที โปรแกรมอยู่ไฟหลังคลอด คอร์สเจ้าสาว นวดไทย หรือนวดหินร้อน รวม 27 โปรแกรม สนนราคาต่ำสุด 150 บาท สูงสุด 1,100 บาท
มีแถมอีกต่างหาก หลังบริการ เสริฟด้วยน้ำคั้นผักและผลไม้สด ช่วยล้างพิษในร่างกายอีก 1 ชุด คุณค่าที่ได้สุดคุ้ม ช่วยผ่อนคลาย มีความสุข และมีสุขภาพดี

สปาไทยไปนอก...
ตั้งแต่ทำมาสรุปบทเรียนได้ว่า
อยาก มีสุขภาพดีต้องใกล้ชิดธรรมชาติ ในด้านธุรกิจ มีกำไรบ้าง ไม่มีบ้าง คุยกับแฟนว่าเราจะสู้ต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่า เรามีความรู้ เราจะทำธุรกิจได้ไหม ส่วนแผนที่วางไว้ในอนาคต
1. จับคู่พันธมิตรธุรกิจกับประเทศจีน ส่งออกธุรกิจสปา พนักงานนวดไทยและผลิตภัณฑ์ไทย
2. เป็นที่ศึกษาดูงานสปาไทย
ทำให้จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้น
3. ตั้งโรงเรียนเรือนสมุนไพรสปาและธรรมชาติบำบัด
ซึ่งจะเปิดกิจการในเร็ว ๆ นี้

1 ใน 20 สปาต้นแบบของไทย...
ปัจจุบัน “เรือนสมุนไพรสปา” บริหารงานโดย
คุณ มะเหมี่ยวและสามี คุณวราวิช ปานเทศ ลงทะเบียนครีมบำรุงผิวถั่วเหลือง เป็น OTOP ไว้กับจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่เลขที่ 101 ถ.เรืองวุฒิ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา อยู่ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ห่าง จากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 300 เมตร มีระบบมาตรฐานบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 ติด 1 ใน 5 ของธุรกิจสปาในภาคตะวันออกและตะวันตกของไทย ที่มีศักยภาพโดดเด่น ด้านการออกตลาดทำธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้รับคัดเลือกเป็นสปาต้นแบบ 1 ใน 20 แห่งทั่วประเทศ จากกรมส่งเสริมการส่งออก เพื่อจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ธุรกิจสปาไทยไปทั่วโลก

สนใจหาคำตอบเรื่องสุขภาพเพิ่มเติม...
โทร.038-535523 ,081-617-4409
หรือ www.lookyoungerspa.com
หรือ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา 038-511239

ใส่ใจต่อสุขภาพสักนิด ชีวิตจะได้ยืนยาวครับ...
 
 
ข้อมูลจากนิตยสาร "ที่นี่แปดริ้ว"
 

“พรมีคุณ” กุนเชียงซอสหอมของดีเมืองแปดริ้ว


“พรมีคุณ” เป็นแบรนด์ของผู้ประกอบการ OTOP ชื่อดังรายหนึ่งในแปดริ้ว คือ บริษัท อาหารดีมีคุณ จำกัด คุณสมศักดิ์ คุณลัดดาพร สื่อสวัสดิ์วณิชย์ เป็นเจ้าของ ที่ตั้ง 492/3 ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผลิตกุนเชียงซอสหอมหลากรส หมูแผ่นกรอบ หมูหยองฝอยกรอบ หมูสวรรค์แดดเดียว เมื่อตอนเด็กผมเคยร้องแหย่เพื่อน “หมูแผ่น หมูหยอง หมูกระป๋องจะลงสนาม” เยาะเย้ย ถากถาง ดูถูก ว่ากันเต็มที่ ไม่ดี เป็นหมู แพ้แน่ แต่รายนี้ไม่ใช่ ผมว่าเขาน่าจะเป็นผู้ผลิตกุนเชียง ที่ดีที่สุดของแปดริ้วในเวลานี้ ต่อจากนี้ คุณลัดดาพร เป็นคนเล่า และผมเป็นคนเขียนครับ

เดินทางพันลี้ต้องมีก้าวแรก...
ก่อน นี้เราค้าส่งอาหารสัตว์ รำ ปลายข้าว ข้าวโพด ส่งขายให้เล้าหมู ที่บ้านเลี้ยงหมูเป็นหมื่นตัว เลี้ยงแบบกงสี คุณสมศักดิ์ไปเรียนด้านการทำอาหารที่เกษตรศาสตร์ คิดว่าน่าจะทำเรื่องการแปรรูปอะไรสักอย่าง ที่ไม่เหมือนกงสี เลยคิดทำกุนเชียง ทำแล้วส่งแล้ว สู้ตลาดล่างที่โคราชไม่ได้ ราคาเราสูง เพราะเราใช้หมูดี ขายโลละสี่สิบ ในขณะที่หมูแดงโลละสี่สิบเข้าไปแล้ว

อยากรวยต้องเปลี่ยน...
เปลี่ยน ตลาดใหม่ หันมาทำแคปหมู ห่อละ 10 บาท ขายดีที่สุด ขายละวัน 4-5 หมื่น ต่อมากรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสนับสนุนให้ทำกุนเชียง ไม่ให้เหมือนชาวบ้านจะทำอย่างไร พวกถั่วงามันฟีเวอร์แล้ว ครั้งแรกจึงทำกุนเชียงกระเทียม งา สาหร่าย ออกบูธที่โรงแรมริเวอร์ซิตี้ ขายดีมาก หลังจากนั้นก็ออกบูธมาตลอด พอขายดี ก็ส่งร้านขายฝาก เพิ่มไลน์ทีละไลน์ ค่อยเพิ่มทีละอย่าง สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย พาไปออกร้านที่ต่างประเทศ ได้ลูกค้ามาจนถึงทุกวันนี้

มีชื่อเป็นคุณ...
ครั้ง แรกใช้ชื่อ “พรแปดริ้ว” พรคำเดียวติดปากลูกค้า จำง่าย เปลี่ยนเป็น “พรมีคุณ” เพราะเปิดเว็บไซต์ มันตรงกับภาษาอังกฤษ porn ไม่ค่อยดี สับสน จึงเอา “มีคุณ” ใส่ด้วย เหมือนเป็นการรีแบรนด์ หมายถึง ลูกค้า แต่ยี่ห้อพรแปดริ้วก็ยังมีอยู่ จะขายในประเทศอย่างเดียว ส่วนพรมีคุณจะขายแฟรนไชน์ ขายต่างประเทศ และตลาดบน

ตัวการสำคัญ...
“เรื่อง การตลาด” ส่วนใหญ่ออกบูธ เดินตลาดเอง ที่หลักๆ คือ งานไทยเฟกของสมาคมหอการค้าที่เมืองทอง ขายให้คู่ค้าเป็นหลัก ได้ประชาสัมพันธ์ ทุกห้างรู้จักเรา “เรื่องการผลิต” เราทำดีเหมือนเดิม ราคาสูง แตกต่างกับตลาดโคราช ลูกค้าชอบ บอกเจ้าอื่นกินไม่ได้ เราก็ภูมิใจ ชื่นใจ เราต้องทำอย่างดีและสะอาด ผลิตภัณฑ์ใหม่กุนเชียงหญ้าหวาน
สำหรับ คนสูงอายุไม่ใส่น้ำตาล ทุกผลิตภัณฑ์เราส่งวิจัยก่อนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ผลิตคิดสูตรเอง ได้ “เครือข่าย” ช่วยเรามาก หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา เป็นสมาชิกเขา เราอยากได้อะไร เขาจะสนับสนุนเรา เขาได้ผลงาน พวกเราก็ได้ประโยชน์

นามบัตรมีค่าอย่าทิ้ง...
ลง ทะเบียน OTOP เพราะอยากให้ฉะเชิงเทรามีชื่อเสียง กุนเชียงไม่มีใครทำ เราได้ชื่อเสียงมาตั้งเยอะ อยากให้สินค้าฉะเชิงเทรามีตัวนี้บ้าง การสมัครสมาชิกทุกเครือข่ายเราจะได้ประโยชน์ ได้ความรู้ด้านการตลาด การผลิต
ได้ขายที่เมืองทองซึ่งขายดีมาก ใครมีนามบัตรร้านพร มาซื้อหลังงานลด 10 % ถ้าสั่งกระเช้าสิบชุดลดให้ 20 %

หาซื้อที่ไหนดี...
จะ ขายของที ต้องย้อนดูสถิติปีที่แล้ว สมุดไม่เคยทิ้ง เดือนอะไร ที่ไหนขายดี ต้องเลี้ยงลูกน้องร่วมร้อยชีวิต ตอนนี้ขายประจำที่เสรีเซ็นเตอร์ ท็อปซุปเปอร์มาเก็ต บิ๊กซีส่งเดือนละหลายตันเป็นแบรนด์ของเขา ที่โรงงานขายทุกวัน อยู่ก่อนถึงตลาด 100 ปี บ้านใหม่ ประมาณ 100 เมตร อนาคตปีนี้ จะเพิ่มโรงงานที่บ้านโพธิ์ พื้นที่ 5 ไร่ ใกล้โตโยต้า เปิดเป็นร้านของฝาก

ฝากถึงชาวแปดริ้ว...
ช่วย สนับสนุนด้วย มาเที่ยวตลาด 100 ปี แวะที่ร้านพรได้ มีปัญหาอะไร ต่อว่ามาก็จะปรับปรุง จะจดไว้ว่าเดือนนี้ลูกค้าต่อว่ากี่ครั้ง ปัญหาอะไร มาจากไหน ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดี เบอร์โทรติดต่อ 0-3881-7862 ,0-3851-7249, 08-1865-4977, 08-6767-8808 หรือสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา 0-3851-1239

กลุ่มปักฉลุร้อยมุกผ้าคลุมศีรษะสตรีมุสลิม


วันนี้ เราไปดูผลิตภัณฑ์ของพี่น้องชาวมุสลิมกันบ้างนะครับ เป็นชุดเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าคลุมศรีษะของสตรีมุสลิม ฝีมือการตัดเย็บและการออกแบบสวยงามมาก กลุ่มนี้เข้มแข็ง และยึดเป็นอาชีพเสริมมานาน ปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อไปนี้คุณสาวณีย์ มะลิวัลย์ ประธานกลุ่ม จะเล่ารายละเอียดให้เราฟังครับ...
ประวัติความเป็นมา
ผ้าคลุมศีรษะฮิญาบ เป็นเครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งของมุสลิม ซึ่งศาสนาอิสลามกำหนดให้สตรีมุสลิมนั้นต้องปกปิดอวัยวะของร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยให้เห็นเพียงใบหน้าและฝ่ามือเท่านั้น เพื่อป้องกันอันตรายทางร่างกาย ทางสายตา ทางวาจา และการล่วงละเมิดทางร่างกาย ก่อน การนิก๊ะห์ (การแต่งงานตามหลักศาสนาอิสลาม) ในยุคอดีตสตรีมุสลิมจะใช้ผ้าธรรมดาไม่มีลวดลายสวยงาม ปัจจุบันจึงคิดริเริ่ม พัฒนาจากเดิมให้มีลวดลายที่สวยงาม ทันสมัย ตามกระแสนิยม เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เด็ก และสาววัยรุ่น แต่งกายให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
อัตลักษณ์หรือจุดเด่นของผลิตภัณฑ์
ลักษณะที่โดดเด่นของผ้าคลุ่มศีรษะฮิญาบ และเครื่องแต่งกายสตรีมุสลิม คือ เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลามลวดลายสวยงามเป็นผ้าปักลายติดมุก หรือลายติดเลื่อม ออกแบบเอง ปักลายเอง
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ
กลุ่มมีความภาคภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้รับรางวัลและมาตรฐาน สมกับความมานะพยายามที่ทุ่มเทลงไป ปัจจุบันกลุ่มมีใบวุฒิบัตรผ่านการอบรมการจัดทำบัญชี วิเคราะห์ต้นทุนและแผนธุรกิจจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ใบประกาศเกียรติคุณตามโครงการคัดเลือกกิจกรรมพัฒนาองค์กรเครือข่ายดีเด่น จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เลขที่ 30898-72/385 และล่าสุดได้รับการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี 2553 ระดับ 5 ดาว
ความสัมพันธ์กับชุมชน
กลุ่มปักฉลุร้อยมุกผ้าคลุมศีรษะสตรีมุสลิมและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ใช้แรงงานของคนในชุมชน เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับสตรีมุสลิมที่อยู่บ้าน ซึ่งว่างงานจากการประกอบอาชีพหลัก คือ การทำนา ให้มีรายได้เสริมเพื่อเลี้ยงครอบครัว และเป็นการส่งเสริมให้สตรีมุสลิมแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามและเป็นแบบอย่าง ให้กับเยาวชนสืบต่อไป
ขั้นตอนและเคล็ดลับการผลิต
สำหรับขั้นตอนการผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีอะไรยุ่งยากมาก แต่ต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และความละเอียดประณีต เริ่มจากการเลือกผ้าเตรียมตัดและตัดผ้าตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นพิมพ์ลายลงบนผ้าที่เตรียมไว้ แล้วปักลายโดยใช้จักรอุตสาหกรรม หรือปักเลื่อมด้วยมือ (
Hand Make) เคล็ดลับในการผลิต คือ ต้องเลือกผ้าที่เนื้อดีเหมาะกับสภาพอากาศ และต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลวดลายให้ทันสมัยอยู่เสมอ
กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ
กลุ่มผู้ผลิต คือ กลุ่มปักฉลุร้อยมุกผ้าคลุมศีรษะสตรีมุสลิมและเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีสถานที่ผลิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 5 ตำบลดอนฉิมพลี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24170 ประธานกลุ่ม คือ คุณสาวณีย์ มะลิวัลย์ โทร.08-9754-5158 การเดินทางไปที่กลุ่มโดยรถโดยสาร มี 2 เส้นทาง คือ จากจังหวัดฉะเชิงเทรามีรถโดยสารประจำทางที่ผ่านคือ รถสายฉะเชิงเทรา – ตลาด16 และจากอำเภอบางน้ำเปรี้ยวมีรถโดยสารประจำทางที่ผ่านคือ รถสายบางน้ำเปรี้ยว – ตลาด16
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
ปัจจุบันเรามีแหล่งจำหน่ายประจำอยู่ที่ที่ทำการกลุ่ม คือ เลขที่ 30 หมู่ที่ 5 ตำบลดอนฉิมพลี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24170 โทร.08-9754-5158 และที่ร้านมะลิวัลย์ ตลาดมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร โทร.08-9774-2168 สนใจอุดหนุนก็เชิญได้ เปิดทำการทุกวัน...
บ้าน เรามีพี่น้องชาวมุสลิมอยู่พอสมควร การที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่การผลิต การตลาด มาตรฐาน และรางวัลที่ได้รับ ผมก็รู้สึกภาคภูมิใจกับเขาด้วย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่คุณสาวณีย์ มะลิวัลย์ ตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ หรือที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร 038-511239 ก็ได้ ยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ...

ขอบคุณ นิตยสาร "ที่นี่แปดริ้ว"
แหล่งที่มาของข้อมูล

ชีวิตผม…รู้เรื่องเดียว ขนมเปี๊ยะ “ตั้ง-เซ่ง-จั้ว”


ผมประทับใจสโลแกนนี้...
ชีวิตผม…รู้เรื่องเดียว ขนมเปี๊ยะ “ตั้ง-เซ่ง-จั้ว”
บนเสื้อคุณชัยรัตน์ ตันคงคารัตน์ เจ้าของร้านตั้งเซ่งจั้ว…
หนึ่งในร้านขนมเปี๊ยะชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา…
เขาคุยว่าเขารู้เรื่องเดียว คือ ขนมเปี๊ยะ...
ต่อไปนี้ คุณชัยรัตน์ จะเล่าเรื่องขนมเปี๊ยะตั้งเซ่งจั้ว ให้เราฟังครับ...

มองข้ามความรวย...
เตี่ยผมนั่งเรือสำเภามาจากเมืองจีน มาอยู่แปดริ้วตั้งแต่ปี 2475...
มาทำขนมเปี๊ยะ ความรู้ที่ได้... รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ...
วางขายที่หน้าบ้าน ขายไม่ดี มีขนม 3-4 อย่าง ชิ้นใหญ่ กลาง เล็ก...
อายุ 13 หน้าที่หลักของผม ติดเตา เฝ้าเตาอบ ไม่หนักแต่ร้อนมาก...
อายุ 18 เตี่ยบอกว่างานขนมเปี๊ยะมันเหนื่อย ไม่อดทนอยู่ไม่ได้...
ถ้ามีงานไหนดีกว่า ชอบกว่า ไปเลย...
เตี่ยบอก ผมก็ไป...
เป็นลูกจ้างส่งใบชาที่กรุงเทพฯ 2 ปี ส่งยา 1 ปี ทำโรงสี 8 ปี...
โรงสีรายได้ดี แต่อยู่ไม่ได้เพราะแพ้ละอองข้าว...

ชีวิตต้องสู้...
กลับมารับขนมเปี๊ยะของพี่ชายมากระจายขาย...
หักลบกลบหนี้แล้ว ไม่คุ้มค่าเหนื่อย คิดว่าจะอยู่รอดต้องทำเอง...
ปี 2526 ผมทุ่มเงินเก็บทั้งหมดที่มี 14,500 บาท ทำขนมเปี๊ยะเอง...
ซื้อเตา ซื้อวัตถุดิบ วันแรกขายได้ร้อยเดียว แทบร้องไห้...
คิดมุมกลับ ขี่หลังเสือลงมาก็ตาย ผมสู้ทน ทำต่อไป...
ผมส่งของมาขายบ้านแม่ยายเพราะทำเลดีกว่า...
ได้วันละพัน สองพัน ไม่พอ แค่นี้อยู่ไม่ได้...

จุดเปลี่ยน...
กรมการค้าภายในมาช่วยชีวิต สมัยก่อนมีโครงการธงฟ้า สินค้าราคาถูก...
จัดงานจังหวัดต่าง ๆ ที่ละ 2 วัน แถวภาคตะวันออกขายดีมาก...
ได้ครั้งละ 3,000-5,000 บาท จึงขายแบบนี้เรื่อยมา...
ประทับใจเมื่อไปขายที่อยุธยา ไปถึง 5 โมงเย็น ฝนมา ฟ้ามืด...
ตกจนถึงหนึ่งทุ่ม น้ำท่วม ของเต็มรถทำไง ต้องขายไม่ขนกลับแน่...
ไม่น่าเชื่อ ผมเอาของมาขายกลางน้ำ คนซื้อลุยน้ำมาซื้อใฃ...
สามทุ่มขายหมดเกลี้ยง...
เมื่อไปหลายที่ คนเริ่มรู้จัก เริ่มขายง่าย ขายดี มีคนโทรมาสั่ง...

ค้าขายต้องปรับตัว...
ทำขนม ถ้าไม่หลากหลาย ก็ขายได้น้อย...
ผมคิดทำขนมเปี๊ยะขึ้นมาเรื่อยๆ ปีละ 1-2 อย่าง...
ตอนนี้ที่ขายดี คือ บัวหิมะ ไส้ทุเรียน ถั่วเขียว ถั่วดำ งาดำ มะตูม...
กว่าจะคิดได้ ทำเสีย ทำทิ้งไปเยอะ...
ส่วนขนมเปี๊ยะมีหลายไส้...
ถั่วไข่เค็ม ถั่วงาดำ สัปปะรด พุทราจีน ฟัก ทุเรียน ฯลฯ...
ขนมที่นี่ทำสดทุกวัน ไม่ใส่สารกันบูด เก็บปกติได้ 1 สัปดาห์...
เก็บในตู้เย็นได้ 2 สัปดาห์ อยู่ได้เพราะเราใส่ซองดูดความชื้น...

พัฒนาไม่สิ้นสุด...
ขนมดีต้องมีกล่องสวย ซื้อฝากใครไม่อายกัน...
ที่นี่กล่องสวย ฝีมือลูกๆ หลาน ๆ ผมมีวิธีลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์...
จะรวมกับพี่ชาย สั่งครั้งละมากๆ ราคาก็ถูกลง...
ขนมที่นี่ 90 % ขายหน้าร้าน ขายหมดทุกวัน...
เมื่อก่อนใช้แรงงานคนปั้น ไม่ทันขาย ทุกวันนี้ต้องใช้เครื่องมาช่วย...
มีห้างใหญ่ๆ ติดต่อให้ไปขาย สนใจนะ แต่ติดปัญหาเรื่องกำลังการผลิต...

เรียนรู้จุดเด่น แก้ไขจุดด้อย...
ขนมเปี๊ยะจะอร่อยอยู่ที่ทุกอย่าง แป้งดี ไส้มีคุณภาพ มีความสด ใหม่...
ผมเน้นว่าต้องทำให้พอดี ขายหมดวันต่อวัน ต้องเตรียมของให้พอขาย...
ขายของกินต้องรู้จักสังเกต ต้องเตรียมตัว ช่วงไหนขายดี ช่วงไหนเงียบ...
ช่วงเงียบ อย่าตุน เงินจะได้ไม่จม...
ช่วงขายดี ปีใหม่ ตรุษจีน ไหว้พระจันทร์ ต้องเตรียมให้พอ...
ปีใหม่ขายดีมาก เพราะขนมเปี๊ยะดีกว่า ทนกว่า...
หยิบกระแทก หน้าไม่เละเหมือนเค้ก...

ชีวิตผม รู้เรื่องเดียว ขนมเปี๊ยะ...
สโลแกนนี้ ลูกสาวคิด สั้นๆ แต่ได้ใจความ...
มนุษย์เรานั้นขอให้มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญในแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง...
ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำมาหาเลี้ยงชีพ...
ดังบทกลอนส่วนหนึ่งของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ที่ว่า…
อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์ มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน...
จะตกถิ่นฐานใดคงไม่แคลน ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน…
อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดคงเกิดผล…
อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์ ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี...

ภูมิใจสร้างตัวได้...
คุณชัยรัตน์ แห่งร้านตั้งเซ่งจั้ว ก็เข้าตำรานี้ครับ...
เขาบอกภูมิใจเรื่องความรู้เรื่องขนมเปี๊ยะ จนกลายมาเป็นสโลแกนประจำตัว...
อีกอย่างที่เขาภูมิใจมาก...
คือ การสร้างเนื้อสร้างตัวจากเงินเพียง 14,500 บาท เท่านั้น...
ปัจจุบันร้านนี้มีอยู่ 2 แห่ง...
ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟฉะเชิงเทราและที่ปากทางเข้าวัดผาณิตาราม...
หรือจะซื้อที่ร้านโกลเด้น เพลส กรุงเทพฯ เขาก็มีขายเช่นกัน...
ส่วนร้านเก๋งจีนที่บางคล้า และร้านที่ถนนมอเตอร์เวย์บางปะกง เป็นของพี่ชาย...
ใครสะดวกจุดไหนก็แวะมาเลือกซื้อได้ครับ...
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม 275/1 ถ.มหาจักรพรรดิ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา…
โทร.0-3851-5395 , 0-3851-1139
หรือ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.0-3851-1239...

บุกโรงงาน “วรพร” ผู้ผลิตมะม่วงดองรายใหญ่ที่สุดในประเทศ

จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นแหล่งผลิตมะม่วงชื่อดังของประเทศ มีการผลิตเพื่อบริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกขายต่างประเทศ มะม่วงส่วนหนึ่งถูกนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดอง มะม่วงกวน วันนี้ ผมจะพาท่านไปพบกับบริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด ผู้ผลิตมะม่วงดอง มะม่วงกวนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ คุณชัยรัตน์ โสธรนพบุตร เจ้าของกิจการ จะเล่าให้เราฟังครับ
.
เติบโตจากธุรกิจหลังบ้าน...
กิจการของ “วรพร” เริ่มต้นจากธุรกิจหลังบ้าน
พ่อแม่เป็นคนทำมาก่อน ธุรกิจหลักของครอบครัวคือขายเสื้อผ้า รอง ลงมาคือดองผลไม้ขาย เป็นการดองตามฤดูกาล สถานที่ผลิตและจำหน่ายเริ่มที่อำเภอแปลงยาวซึ่งเป็นบ้านเกิด แล้วส่งขายต่อไปยังอำเภออื่นๆ กลายเป็นธุรกิจระดับจังหวัด ตอนแรกผมไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้ พ่อแม่บอกว่าเหนื่อย ผมจึงไปรับราชการเป็นครู หลังจากรับราชการได้สิบกว่าปี ได้ลาออกมาเลี้ยงกุ้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงหันกลับมาสนใจธุรกิจที่ครอบครัวเคยทำมา
.

เปลี่ยนการตลาดเพื่อขายห้าง...
เริ่ม แรกก็ทำเป็นธุรกิจหลังบ้านเหมือนกัน แต่การตลาดเปลี่ยนไป คือตั้งใจทำขายให้นักท่องเที่ยว ไม่ใช่ขายเฉพาะในท้องถิ่น ต้องใส่น้ำตาล มีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ต้องทำแบรนด์ มียี่ห้อ ซึ่งประสบความสำเร็จ ขายดี การขายมะม่วงดองเมื่อ 20 กว่าปีก่อน มีแต่ในระดับล่าง ร้านขายของชำ รถเข็น ไม่มีขายในห้าง ถึงมีก็ต้องจิ้มพริกเกลือ ผมเป็นรายแรกที่ทำมะม่วงดองที่ไม่ต้องจิ้มพริกเกลือ ร้านที่ส่งขายแรก ๆ เป็นร้านแหล่งท่องเที่ยว เช่น คิงส์สโตร์ ตั้งเซ่งจั้ว ร้านริน ร้านเหล่านี้ มองว่ามะม่วงดองของผมแพง ลูกละ 10 บาท แต่รถเข็นลูกละ 5 บาท ไม่น่าขายได้ แต่ปรากฏว่าผมเตรียมมะม่วงไว้ขาย 1 ปี ขายจริง 3-4 เดือนหมดแล้ว ทำให้เราเติบโตเรื่อยมา จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เราคือผู้ผลิตมะม่วงดองรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ส่วนการส่งออก เราขายต่างประเทศถึง 40 % ของปริมาณการผลิต ประเทศที่ส่งไปขายมากที่สุด คือ จีน ซึ่งตลาดเติบโตเร็วมากจนเราผลิตไม่ทัน
.
ก้าวข้ามความเป็นสินค้าท้องถิ่น...
แนว คิดก่อนออกมาทำธุรกิจ ผมคิดว่าต้องทำรายได้ไม่น้อยกว่าเงินเดือนที่เคยได้ ต้องตั้งเป็นเป้าหมายแรก แล้วมุมานะ พยายามทำให้ได้ ผมทำได้ไม่ถึงปี ก็บรรลุเป้าหมายนี้ คือมีรายได้มากกว่าเงินเดือน ที่ประสบความสำเร็จเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู ประมาณปี 2529 ช่วงนั้นใครทำธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จ ขายอะไรก็ขายได้ เพราะคนมีสตางค์ และเป็นความโชคดี ที่เราได้รับการรับสนับสนุนจาก ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เขียนบทความลง น.ส.พ.มติชน ทำให้เราได้แบรนด์เชลล์ชวนชิม และตอนนั้นเจ้าหน้าที่ของเชลล์ชวนชิม กำลังเปิดร้านขายของในปั๊มน้ำมัน สินค้าที่ได้แบรนด์เชลล์ชวนชิมจึงได้รับการสนับสนุนด้วย ที่ประทับใจมากมีอยู่วันหนึ่ง ไปส่งของให้เขา กลับมาบ้านไม่ถึงชั่วโมง เขาโทรมาว่าให้ไปส่งใหม่ ที่ส่งมาขายหมดแล้ว ชั่วโมงเดียวหมดผมประทับใจมาก ตรงนั้นทำให้เราได้ชื่อเสียง เป็นการก้าวข้ามความเป็นสินค้าท้องถิ่นไปสู่สินค้าระดับประเทศ
.
การตัดสินใจครั้งสำคัญ...
ตอน นั้นต้องตัดสินใจว่า จะเป็นสินค้าท้องถิ่นหรือเป็นสินค้าอินเตอร์ ท้องถิ่นหรืออินเตอร์มันขึ้นอยู่กับการตั้งราคา ราคาของสินค้าท้องถิ่น คือ ถ้าซื้อที่ฉะเชิงเทราจะถูก ซื้อที่อื่นจะแพง ราคาของสินค้าอินเตอร์ คือ ไม่ว่าคุณจะซื้อที่ไหน ราคาเท่ากัน ส่วนวรพรตั้งเป้าหมายจะเติบใหญ่ ขายทั่วประเทศ เราต้องการเป็นสินค้าอินเตอร์ เมื่อตั้งเป้าอย่างนี้ เราก็มีสินค้ากระจายทั่วประเทศ การขายไกลๆ ต้องแบกรับค่าขนส่ง ทำให้เราได้กำไรต่อชิ้นน้อยลง แต่ปริมาณการขายจะมากขึ้น จุดหักเหอีกจุดหนึ่ง คือ ได้ไปเปิดตลาดที่จีน ประเทศนี้ไม่มีมะม่วงดอง แต่ชอบกินของเปรี้ยวๆ เค็มๆ เหมือนบ้านเรา ผมใช้เวลาบุกจีนมากกว่า 10 ปี ไม่ง่ายอย่างที่คิด เสียค่าใช้จ่ายไปมาก เกือบท้อใจ แต่สุดท้ายก็ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากลับมา ปัจจุบันถือว่าเราเข้มแข็งระดับหนึ่งในประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตามเรายังต้องเรียนรู้อีกเยอะ
.
ปลูกเพื่อการผลิต เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า...
การปลูกมะม่วงหรือสินค้าเกษตรอื่น เพื่อนำมาผลิตเป็นอุตสาหกรรม
เป็น สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องใช้ต้นทุนที่ถูกที่สุดเพื่อเอาไปแข่งขัน เราต้องเอาผลไม้ที่เหลือกินเหลือใช้ ไม่มีราคาแล้ว เอามาทำ ถ้าเราปลูกเอง แปลว่าเรามีต้นทุนการผลิต ปัจจุบัน เราซื้อต่ำกว่าต้นทุนที่มีการผลิต ดังนั้น อย่าปลูกเพื่อนำมาแปรรูป มันไม่คุ้มค่า หน้าที่ของผมเวลานี้คือส่งเสริมให้ชาวสวนได้กำไรเยอะๆ เพราะถ้าไม่มีเขา เราอยู่ไม่ได้ และส่วนที่เหลือในตลาด เช่น ขายไม่ออกเพราะผิวลาย ดกเกินไป ผมเป็นหน่วยสุดท้ายที่รองรับ นี่คือหน้าที่ของโรงงานแปรรูปผลไม้
.สินค้าดี ต้องมีมาตรฐาน...กระแส โลกมีความห่วงใยในเรื่องสุขภาพกันมาก การขายสินค้าในประเทศต่างๆ จะต้องมีมาตรฐานรองรับ เราเองก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ปัจจุบันนี้เราได้รับมาตรฐาน GMP และ HACCP แล้ว เป็น OTOP แปดริ้วรายแรกที่ได้รับมาตรฐาน HACCP( : Hazard Analysis Critical Control Point เป็นมาตรฐานระบบความปลอดภัยอาหารระดับนานาชาติ)
.
ฝากถึง OTOP คุณต้องตัดสินใจว่าคุณเป็นใคร...
ผู้ ที่เป็น OTOP ต้องพิจารณาตัวเองว่า อยากจะยืนอยู่ในตำแหน่งใดในตลาด ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องทำอย่างวรพร คุณต้องดูศักยภาพของตัวเอง บรรจุภัณฑ์ไม่ได้สะท้อนความสำเร็จ ถ้าทำดีแต่ขายในท้องถิ่นจะทำให้คุณเปลืองต้นทุน แต่ถ้าขายต่างจังหวัดไกลออกไป ต้องพัฒนาบรรจุภัณฑ์และแนวคิดเช่นเรื่องราคาอย่างที่ว่า ถ้าเลือกเป็นสินค้าท้องถิ่น แปลว่าเขาต้องมาที่นี่เท่านั้น ไม่มีที่อื่น ถ้าเป็นสินค้าอินเตอร์ เขาซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาซื้อที่นี่ และซื้อในราคาที่เท่ากัน คุณต้องรู้ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหน ไม่เช่นนั้นไม่มีทางประสบความสำเร็จ ผมขอฝากไว้ คุณต้องรู้จักตัวเองให้มากที่สุด

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด
20/5 หมู่ 6 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา
โทร. 038-813444
หรือ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา
โทร 038-511239...

ผลิตภัณฑ์ “วรพร” มีวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั่วประเทศ เป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่เป็นชาวแปดริ้วแท้ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดอกไม้ประดิษฐ์ (กัญญา สังข์เจริญ)

ดอกไม้ประดิษฐ์สวยๆ จากคุณกัญญา สังข์เจริญ
อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 1 ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
โทร.089-2539298