วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ลืมได้เลย...หลุยส์ วิตตอง

หลุยส์ วิตตอง เป็นแบรนด์ที่กำเนิดขึ้นที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ. 1854 โดยหลุยส์ วิตตอง มัลเลเทียร์... ตอนนี้แบรนด์หลุยส์ วิตตองได้เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่คนทั่วโลกรู้จัก... สินค้าที่แบรนด์นี้จำหน่ายได้แก่ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ...หีบห่อบรรจุเสื้อผ้า เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา และเครื่องประดับ...

รวมแบรนด์ดัง...

หลุยส์ วิตตอง จัดว่าเป็นแบรนด์เก่าแก่แบรนด์หนึ่ง...คู่แข่งของ หลุยส์ วิตตอง ตอนนี้ก็น่าจะได้แก่ เวอร์ซาเช่, แอร์เมส, ดัลเช่แอนด์กับบาน่า, กุชชี่, เบอเบอร์รี่, ดิออร์, ชาแนล, เฟนดิ, อาร์มานี่, พราด้าบริษัทที่ได้ดูแลและครอบครองหลุยส์ วิตตองในตอนนี้ก็คือ LVMH …และดีไซน์เนอร์คนปัจจุบันของหลุยส์ วิตตอง ก็คือ Marc Jacobs…

รีบซื้อก่อนดัง...

เรื่องของหลุยส์ วิตตอง เป็นเรื่องของไฮโซ หรือคนมีเงิน...ประเด็นก็คือ ถ้าเรามีเงินไม่มาก แต่อยากได้กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายดีๆ มาใช้บ้าง จะมีขายไหม...วันนี้ ผมจึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับกระเป๋าหนังยี่ห้อ “ออนี่” ครับเป็นของดี มีคุณภาพ รับประกันด้วยใบประกาศนียบัตร OTOP ระดับ 5 ดาว ปี 2552ผลิตอยู่ที่บ้านกระบกเตี้ย หมู่ที่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต นี่เอง...

เส้นทางที่ยากลำบาก...

อำนวย แสงอภัย เด็กต่างจังหวัดจบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 ...แล้วเดินทางมาขายแรงงานในเมืองหลวง ที่โรงงานกระเป๋าหนัง... เริ่มตั้งแต่รับจ้างทากาว ตัดหนัง และช่างเย็บ ทำงานอยู่ 4 ปี ก็เริ่มรับงานเหมาเพราะได้เงินเป็นก้อนโต... เก็บเงินได้สองแสนบาท ลงทุนเปิดร้านรับงานเอง... แต่ความอ่อนด้อยเรื่องตลาด กิจการจึงไม่เป็นอย่างที่คิด สุดท้ายขาดทุนแทบหมดตัว... เลยกลับไปรับจ้างในโรงงานเพื่อเก็บเงินมาลงทุนอีกครั้ง... ตัดสินใจชวนทิพย์วัลย์ แสงอภัย ภรรยาคู่ใจกลับมาปักหลักที่บ้านเกิด... อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา หวังมาทำกระเป๋าหนังส่งขายเมืองกรุง

มุ่งสู่การเป็นเจ้าของกิจการ...

เมื่อปี 2544 มาจับจุดเกี่ยวกับธุรกิจได้จริง และเริ่มมีโครงการ OTOP เข้ามาช่วยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จึงทำให้กระเป๋ายี่ห้อ ออนี่” สามารถทำตลาดได้อย่างจริงจัง... ต่อมาเริ่มหาทุนจากสถาบันต่าง ๆ เพื่อขยายการผลิต... และเริ่มรู้จักการจัดระบบการขาย เช่น การออกแสดงสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ... ส่วนใหญ่สินค้าที่ขายได้จะเป็นงานขายปลีกและการสั่งออเดอร์ เช่น กระเป๋าใส่นามบัตร พวงกุญแจ กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย ลูกค้าหลักของกระเป๋าออนี่ จะเป็นกลุ่มสาววัยทำงาน โดยราคาสินค้ามีตั้งแต่ 902,700 บาท

อย่าผิดซ้ำซาก...

ปัจจุบันไม่มีหน้าร้าน เพราะมีความคิดว่าหากมีหน้าร้านคงต้องใช้เงินลงทุนสูง... เนื่องจากเคยพลาดมาแล้วก็ไม่อยากซ้ำรอยเดิมอีก... แต่จะมีการส่งเสริมการค้า โดยการนำเอาสินค้าออกจำหน่ายตามงานแสดงต่าง ๆ เพราะลูกค้าจะไม่ยึดติดกับแบรนด์ดัง ๆ แต่สนใจที่อายุการใช้งานมากกว่า ทางด้านราคาจะเช็คจากราคาหนัง วัตถุดิบให้ราคาต่ำกว่าท้องตลาดประมาณ 30% การดีไซน์หรือออกแบบจะดูจากกระเป๋าที่ใช้ทั่วไป แล้วจึงนำมาดัดแปลงประยุกต์ให้มีความโดดเด่น สวยงามไม่แพ้ยี่ห้อดัง ๆ ...

ต้องแตกต่าง แต่ดีกว่า...

เอกลักษณ์ของกระเป๋า ออนี่ คือ มีความคงทน สวยงาม น่าใช้ ที่สำคัญผู้ประกอบการรับซ่อมตลอดอายุการใช้งาน มีความแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ คือ จะเน้นวัตถุดิบเป็นเครื่องหนังสลับเปลี่ยน คือกระเป๋า 1 ใบ จะมีหนังไม่เกิน 2 สี... หนังที่ใช้จะเป็นหนังวัวฟอก 100% เกรด A ให้ความคงทน นุ่ม ไม่กระด้าง... การผลิตทำด้วยความประณีต วัสดุที่ใช้แข็งแรง ทนทานและมีบริการหลังการขายแรงงานที่ใช้ผลิตเป็นแรงงานในชุมชนบ้านกระบกเตี้ย ตำบลท่ากระดานซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างดี

สนใจสั่งซื้อได้ในงานแสดงต่าง ๆ เช่น งาน OTOP ที่เมืองทองธานี... งานนมัสการหลวงพ่อโสธร งานกาชาด หรืองานกิจกรรมต่าง ๆ ที่จังหวัดจัดขึ้น... หรือติดต่อคุณทิพย์วัลย์ แสงอภัย เลขที่ 148 บ้านกระบกเตี้ย หมู่5 ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร 08-7940-4237

ก็นี่ไง ที่ผมว่าลืมได้เลย...หลุยส์ วิตตอง...

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.038-511239

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จากงูเขียวในท้องถิ่น เป็นมังกรบินได้อย่างไร

คุณรู้ไหมว่า การพัฒนา OTOP แปดริ้ว เขาทำกันอย่างไร...ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ดีขึ้นมาได้...แต่มันมีกระบวนการปั้นดินสู่ดาว...หรือที่ผมเรียกว่า จากงูเขียวในท้องถิ่น เป็นมังกรบิน นั่นแหละครับ...

องค์กรลับ ขับเคลื่อน...

จริง ๆ ไม่ใช่องค์กรลับอะไร แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้...หนึ่ง เขามีคณะอนุกรรมการ OTOP จังหวัด ท่านผู้ว่าฯ เป็นประธาน...มีหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์...สอง คณะกรรมการพัฒนาองค์ความรู้ รองผู้ว่าฯ เป็นประธาน...มีหน้าที่วางแผนการพัฒนาทุกๆ ด้าน...สาม คณะอนุกรรมการด้านการตลาด การบริหารจัดการ ด้านอาหาร ด้านของใช้...มีหน้าที่วางแผนปฏิบัติการและขับเคลื่อน...สี่ เครือข่าย OTOP แปดริ้ว...มีหน้าที่ช่วยเหลือกันทุกด้านในกลุ่ม OTOP ด้วยกัน...

คิดจะรบ ต้องมีกลยุทธ์

องค์กรเหล่านี้ เขาไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า...เขามีการประชุมวางแผนกันก่อน...มองอนาคตอย่างไร มีวิสัยทัศน์อย่างไร มีเป้าหมายอย่างไร...เขาวิเคราะห์ มองรอบด้าน จะแก้ปัญหาอย่างไร พัฒนาอย่างไร...สรุปออกมา เขาเรียกว่า ยุทธศาสตร์ ครับ...ในนั้นจะบอกเป้าหมาย กลยุทธ์ ยุทธวิธี ที่จะรบทั้งหมด...

จับงูเขียว มาฝึก...

กลุ่มเป้าหมายของเขา คือ กลุ่ม OTOP แปดริ้วทั้งหมด...ส่วนใหญ่เป็นงูเขียวท้องถิ่น คือ หากินเล็กๆ น้อยๆ แถวบ้าน...มีบ้างที่เป็นงูใหญ่ หากินไกลหน่อย มีกำลังมาก...องค์กรจะจับพวกนี้มาอบรม ฝึกซ้อม ประชุม สัมมนา...เรียกว่าให้ความรู้ และฝึกทักษะของการเป็นผู้ประกอบการทุกอย่าง...บางหลักสูตร ลงทุนเป็นหลายๆ แสนบาท ก็มี...

กบนอกกะลา

ยังไม่พอ เกรงจะไม่เข้าใจ ยังพาไปดูงานอีก...ว่ากันว่า การทัศนศึกษา ดูงาน เป็นการเรียนรู้ที่ดีมากอย่างหนึ่ง...เขาพางูเขียวท้องถิ่นไปดูกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์...ดูการบริหารจัดการ การตลาด การหาแหล่งทุน และอีกหลายอย่าง...พวกนี้กลับมาก็กลายเป็นกบนอกกะลา โลกทัศน์กว้างไกลขึ้น...

กระบวนการ กลายร่าง...

กลับจากการฝึกวิทยายุทธ์ และดูงานแล้ว...พวกงูเขียวทั้งหลาย ก็ต้องมาพัฒนาตัวเอง...ผลิตภัณฑ์ต้องดีขึ้น ทั้งสี กลิ่น รส รูปทรง คุณภาพ มาตรฐาน...บรรจุภัณฑ์ต้องตา ต้องใจ แข็งแรง ปลอดภัย...ราคาขาย ราคาทุน ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ไม่ใช่ทุนหาย กำไรหด...สถานที่ขายต้องดี เหมาะสม ทำอย่างไร ให้ลูกค้าเห็นง่าย เห็นแล้วซื้อ...การส่งเสริมการขาย ลด แลก แจก แถม ก็ต้องมี...ภาษานักการตลาด เขาเรียกว่า หลัก 4P นั่นเอง...คือ การพัฒนา Product Price Place และ Promotion …

งูเขียว ที่แคระแกรน

กระบวนการพัฒนานี้ ไม่ใช่ว่าทุกผู้ประกอบการจะทำได้...บ้างคนก็ท้อแท้ หมดกำลังใจไปก่อน...แต่เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปแล้ว...โดยหลักที่ผิดพลาดก็คือ 1 ใน 4P หรือหลายตัวใน 4P ...อีกประการหนึ่ง คือ การไม่คิดที่จะพัฒนาของตัวผู้ประกอบการเอง...แต่สำหรับผู้ที่ไม่ย่อท้อแล้ว มกจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ...

ถึงเวลา มังกรบิน

เมื่อมีการพัฒนาแล้ว งูเขียวก็กลายเป็นมังกร...พร้อมที่จะค้าขายกับโลกภายนอก ต่างถิ่น...บ้างก็มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง บ้างก็ตลาดนัด...บ้างก็ค้าขายทางอินเตอร์เน็ต หรือ Event ต่างๆ ...บ้างก็ค้าขายทั้งในจังหวัด ต่างจังหวัด และต่างประเทศ...

สุดท้าย พบกันที่เมืองทอง...

นี่คือแหล่งใฝ่ฝันของบรรดาเหล่ามังกรบินทั้งหลาย...เพราะมันคือโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุดของ OTOP…การค้าปลีก ค้าส่ง และพบปะลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศจะเกิดขึ้นที่นี่...จากที่เล่ามาทั้งหมด คือ กระบวนการพัฒนา OTOP แปดริ้ว...ซึ่งจะหมุนวนไม่หยุดนิ่ง ปีแล้วปีเล่า ตราบเท่าที่ ยังมี OTOP อยู่...และขณะนี้องค์กรขับเคลื่อน OTOP แปดริ้ว ได้จัดทำหนังสือชื่อ “OTOP แปดริ้ว เพื่อเผยแพร่แล้ว...สนใจขอรับได้ที่ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.0-3851-1239...

“ริน” หนึ่งในตำนานขนมหวานแปดริ้ว

รินขนมไทย...ลงทะเบียน OTOP ในนามวิสาหกิจชุมชนโสธรพัฒนา...ตั้งอยู่เลขที่ 15/2 ม.3 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 24000...บริหารงานโดย คุณวิทยา คุณวรพรรณี น้อยใจบุญ สองสามีภรรยาและลูกๆเป็นผู้นำธุรกิจขนมหวานไทยของแปดริ้ว...จากสูตรขนมคุณยายทำให้ลูกหลานและญาติมิตรรับประทาน....พัฒนามาเป็นร้านขนมหวานของดีประจำจังหวัด ที่รู้จักกันมานานกว่า 30 ปี...คุณวรพรรณี หรือพี่เล็ก ผู้ประกอบการรุ่นลายคราม จะเล่าเรื่องราวของ รินขนมไทย ให้เราฟัง...

ก่อนจะมาเป็น ริน”…

เดิมพี่เป็นครู แฟนเลี้ยงไก่ ไม่มีประสบการณ์ ขาดทุนมาก... เจ๊ง...คิดใหม่ ทำใหม่ น่าจะทำขนม เพราะปู่ย่าตายายทำขนมเก่ง...คิดถึงกระยาสารท หนึ่งเก็บได้เป็นปี...สองกรอบมันเพราะไม่ใช้น้ำตาล เราใช้น้ำอ้อย...

ปัญหาน่าปวดหัว

เริ่มค้นหาวัตถุดิบ...ข้าวเม่า งา ถั่วลิสง น้ำอ้อย จะซื้อจากที่ไหน....รู้ว่าพ่อค้าไปเอาที่แพท้องน้ำ (วัดแหลม) แต่ที่นั่นเขาไปเอามาจากไหนไม่รู้...อย่างอ้อยไม่ใช่ที่ไหนก็ใช้ได้...อ้อยชลบุรี ดินทราย ร่วนใช้ไม่ได้...อ้อยวัดผาฯ (วัดผาณิตาราม อ.บ้านโพธิ์) ดินน้ำเค็ม ก็ใช้ไม่ได้...อ้อยดี ต้องปลูกดินเหนียว แถวนนทบุรี,ปทุมธานี...และต้องเป็นอ้อยพันธุ์ที่ปลูกกวนขนมเท่านั้น...ค้นหามานาน หลายที่กว่าจะลงตัว...ใช้งาที่เพชรบูรณ์ ถั่วลิสงที่พนัสนิคม...ข้าวเม่าต้องเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงู...กวนเดือนแปด ใช้เดือนสิบ (ประมาณตุลาคม)...แม่ค้าที่ตลาดถาม...ทำไมไม่ขายทั้งปี...เดี๋ยวขายเดี๋ยวหยุด...เลยลองกวนทั้งปี...

เหตุที่ดัง...

มีลูกค้าซื้อไปฝาก ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ท่านทิ้งไว้นาน...วันหนึ่งทานข้าวเสร็จ หยิบกระยาสารทมาทาน...แผ่นกลาง 4 ชิ้น ทานหมดเลย...ท่านเขียนลงวารสารฟ้าเมืองไทย และทางวารสารขอเครื่องหมาย เชลล์ชวนชิม ให้...หลังจากนั้นมา ก็ขายดีขึ้นเรื่อยๆ...

ทำไมยี่ห้อ ริน

สินค้าต้องมียี่ห้อ...เล็ก ชื่อโบราณ...ชื่อจริงก็ยาวไม่เหมาะสม...ลูกสาวชื่อภาวริน ริน แปลว่า ทอง...ฟังดูเย็นๆ ดี เหมือนน้ำไหลรินๆ...จึงตกลงใช้ชื่อนี้ น้องของพี่วิทยาออกแบบตัวหนังสือให้...

มากกว่ากระยาสารท...

จากกระยาสารทหนึ่งอย่าง ลูกค้าบอกมีตัวเลือกน้อย...จึงทำขนมอื่น ๆ ด้วย ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหัวผักกาด ฯลฯ...จากที่เราเป็นเด็ก แม่มีลูก 7 คน ทำขนมกินเอง ทำให้เรารู้จักขนมต่างๆ...ค่อยพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ลองผิดลองถูก...ปรับบางสูตรที่ไม่อร่อย...สูตรต่างๆ จากวิธีตวง เปลี่ยนเป็นวิธีชั่ง เพราะตวงไม่แน่นอน...

ตลาดของ ริน”…

แรกๆ หิ้วขนมไปฝากขายตามร้านต่างๆ แถวบางกะปิ 10 ร้าน ได้ 2 ร้าน...เขาบอกติดเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่ได้ก็เป็นฝากขาย ไม่ซื้อขาด...ต่อมาออกงานบ่อย ขายที่งานในกรุงเทพฯ งานที่สวนอัมพร งาน ททท....ต้องปรุงตรงนั้น เอารถสิบล้อขนไป...เจอคู่แข่งเราไม่กลัว เพราะเราอร่อยกว่า...ปัจจุบันเราขายประจำที่ร้านริน มี 2 แห่ง... คือ ที่นี่ เปิดทุกวัน 07.00-19.00 น.กับที่ ถ.เทพคุณากร ขาออกจากไปไหว้หลวงพ่อโสธร เปิด 08.00-18.00 น....ต่างจังหวัด ส่งร้านโกลเด้นเพลส ,บางจาก ,เรมอนฟาร์ม...และร้านขายของฝาก กรุงเทพฯ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ไม่ไปไกล...

อยู่อย่างพอเพียง...

เคยคิดพัฒนาเพื่อส่งออก เริ่มติดต่อที่เมืองจีน ลองตลาด ขายไม่ดี...เมืองจีนมีขนมถั่วตัด คนไม่สนใจกระยาสารท...เคยมีพ่อค้าคนกลาง สั่งของเราไปขายที่นิวซีแลนด์...หยุดไปพักหนึ่ง นึกว่า OK ปรากฏว่าร้านเขา ทางการตรวจแล้วไม่ผ่าน...ล๊อตเดียวหายเลย...และช่วงนั้นมีข่าวพ่อค้าคนกลางหลอกลวง OTOP บ่อยๆ...กลับมาพิจารณา เราเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ในหลวงก็บอกเศรษฐกิจพอเพียง...จึงเลิกคิดส่งออก...ลูกค้าเก่าอย่าให้หาย ลูกค้าใหม่หาเพิ่มเติม...คงไว้ซึ่งความยุติธรรม ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อลูกค้า ไม่เอาเปรียบลูกค้า เท่านี้พอ...

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ...

ร้านริน มีเอกลักษณ์ คือ ทำขนมไทยไม่ทำขนมต่างประเทศ...และมีการสืบกิจการให้กับทายาท รางวัลแห่งความภาคภูมิใจล่าสุด...ได้รับรางวัลคุณแม่ผู้อนุรักษ์ขนมไทยดีเด่น...จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เมื่อ 29 ก.ค.49...รายละเอียดเพิ่มเติมขอได้ที่ ร้านริน โทร 0-3851-3777, 0-3851-2534...หรือ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.0-3851-1239...

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แปดริ้วแชมป์ ชัยชนะท่ามกลางความโกลาหล

ผมขอคุยเรื่องนี้หน่อยเถอะ...นานๆ จะได้แชมป์ระดับประเทศสักที...เป็นรางวัลชนะเลิศการประกวดขบวนพาเหรดวัฒนธรรม...งาน OTOP Festival in the City 2009 ณ สนามศุภชลาสัย ถนนสุขุมวิท...เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552...รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารฯ...กับเงินสดอีก 500,000 บาท...ผู้ว่าฯ วีรวิทย์ วิวัฒนวานิช รับถ้วยพระราชทาน...พัฒนาการจังหวัด กฤษณา สุพรรณพงษ์ รับเงินสดห้าแสนบาท...จากนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...ผมขอเล่าเรื่องเบื้องหลัง ด้วยความภาคภูมิใจ...เราสามารถแก้ไขปัญหามาได้ด้วยดี จนคว้าชัยชนะครั้งนี้ครับ...

วิกฤตคือโอกาส...

คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ...มีมติให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงานใหญ่...OTOP Festival in the City 2009 ณ บริเวณใจกลางเมืองกรุงเทพฯ...ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 5 เมษายน 2552...พูดง่ายๆ คือ ขาย OTOP ในศูนย์การค้าชั้นนำ 7 แห่ง ได้แก่...เอ็มโพเรียม อัมรินทร์พลาซ่า สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์...สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และมาบุญครอง...กับสนามศุภชลาสัย สนามกีฬาแห่งชาติ รวม 3,200 ร้านค้า...อยากให้งานดี งานดัง ก็เลยให้มีการประกวดขบวนพาเหรดวัฒนธรรมด้วย...แบ่งเป็น 18 กลุ่มจังหวัด ๆ ละ 1 ขบวน...แข่งขันวันเปิดงาน 29 มีนาคม...เรารู้ตัวก่อนแข่งขันประมาณ 10 วัน เท่านั้นเอง...

ปัญหามา ปัญญามี...

เวลากระชั้นชิด คิดอะไรได้ต้องรีบทำ...ผู้ใหญ่ในจังหวัด ตั้งแต่ผู้ว่าฯ พัฒนาการจังหวัด...เคลียร์ปัญหาก่อน ทำไงดี...กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง มี 5 จังหวัด...ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว...ตอนนี้แปดริ้วรับบทเป็นหัวหน้ากลุ่ม...ท่านผู้ว่าฯ เคลียร์ทุกจังหวัด ขอรับอาสาดำเนินการเอง...ไม่งั้นไม่ทัน ไม่เรียบร้อย บริหารจัดการยาก...ทุกจังหวัดโอเค แปดริ้วดำเนินการ...

ขุนศึกอยู่ที่ไหน...

ยิ่งใกล้วัน เวลาเหลือน้อย ยิ่งต้องรีบ...เงื่อนไขประกวด ต้องมีรถขบวน 1 คัน ยาว 9 เมตร สูง 4 เมตร...ประดับด้วย OTOP...ผู้แสดง 150-200 คน แสดงวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทุกจังหวัด...เวลาน้อย โจทก์ยาก ใครจะทำได้...โชคยังดี หลายปีผ่านมา เวลาเปิดงาน OTOP แปดริ้ว...เราใช้นักแสดงของอาจารย์อุษา วงศ์กลม โรงเรียนวัดดอนทอง...ได้อาจารย์อุษามาช่วยเรื่องรูปขบวนและนักแสดง...อาจารย์นิวัฒน์ช่วยเรื่องตกแต่งรถ...อาจารย์ไปช่วยกันคิดอยู่เป็นวัน จึงได้แบบออกมาเป็นรูปร่าง...

คิดดี มีความหมาย...

พัฒนาการจังหวัดช่วยเพิ่มเติม เข้ารูปเข้ารอย...รถแห่ นำหน้าด้วยหลวงพ่อโสธร เสด็จจากสวรรค์ แห่แหนด้วยสัตว์ป่าหิมพานต์...คชสีห์ หมายถึงความน่าเกรงขาม นกสัมพาที หมายถึงความมีพลัง ความเสียสละ...นาคราช หมายถึง ความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์...นำผลิตภัณฑ์ OTOP จากภูมิปัญญาอารยชนสู่มวลมนุษย์...เสริมด้านข้างด้วยรูปแกะสลัก ปลาช่อน ตำนานของชาวแปดริ้ว...และด้านหลังด้วยซุ้มประตูปราสาทสด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว...รวมแล้วหมายถึง ความเลื่อมใสหลวงพ่อโสธร และอวยพรให้ทุกคนเจริญก้าวหน้า...

เบญจบูรพาสุวรรณภูมิ...

ขบวนนักแสดง ประกอบด้วย 5 ขบวน ๆ ละ 30 คน...รวม 150 คน...ฉะเชิงเทรา ชื่อขบวน พระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธร เป็นแม่ลูกคู่ขวัญไปรำแก้บนหลวงพ่อ...สมุทรปราการ ชื่อขบวน อรชรรามัญบรรเจิดเชิดหุ่นคน แสดงหุ่นคนเชิด...นครนายก ชื่อขบวน สวยเลิศล้นชนไทยพวน แต่งกาย ร่ายรำแบบชนพื้นเมือง...ปราจีนบุรี ชื่อขบวน งามสง่าล้วนทวาราวดี แสดงระบำทวาราวดี...สระแก้ว ชื่อขบวน สำอางค์ศรีนางอัปสรา แสดงระบำอัปสราสำอางค์ แบบเขมร...และสุดท้าย เราให้ชื่อกลุ่มจังหวัดนี้ว่า กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ...ทั้งหมดนี้ กรรมการชอบ คนดูชอบ...เราชนะที่หนึ่งของประเทศ...ขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน...และลืมไม่ได้ อบจ.ฉะเชิงเทรา สนับสนุนงบประมาณครับ......

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จากสุดยอดสมุนไพรไทย มาเป็นเครื่องสำอางวรรณพฤกษา

เคยบ้างไหม...ที่รู้สึกว่า...มีอะไรบางอย่าง ที่เรารู้จักดีที่สุด...รักที่สุด ชอบที่สุด ดีจนอยากบอกต่อ...อยากให้คนอื่นใช้...ของดีๆ อย่างเราบ้าง...วันนี้ ผมมีเรื่องของคนแบบนี้ มาเล่าให้ฟัง...คุณวรรณี นิ่มเจริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนวรรณพฤกษาสมุนไพรไทย...คนที่รู้จักคุณค่าของสมุนไพรไทยดีที่สุดคนหนึ่ง...คนที่แบ่งปันความรู้ ภูมิปัญญา ออกมาในรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย...เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ สิ่งดีๆ อย่างที่เธอใช้...ต่อไปนี้ คุณวรรณีเล่า...ผมเขียน....เช่นเคยครับ...

เปิดประตูกิจการ...
วิสาหกิจชุมชนวรรณพฤกษาสมุนไพรไทย จดทะเบียนแล้ว...
อยู่เลขที่ 193/12 ซ.มหาจักรพรรดิ 9 ถ.มหาจักรพรรดิ ต.หน้าเมือง อ.เมือง...ก่อตั้งเมื่อปี 2547 มีสมาชิก 7 คน ส่วนใหญ่เป็นญาติกัน...ลงทุนครั้งแรก 300,000 บาท ด้วยทุนส่วนตัว...เป็นค่าแบบพิมพ์ สติกเกอร์ ขวด อุปกรณ์ สมุนไพร...สมุนไพรบางอย่างปลูกเอง ที่บ้านแม่ที่คลองเขื่อน...เช่น มะกรูด ทองพันชั่ง ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก ใบตำลึง ฯลฯ...หัวเชื้อเคมีซื้อแถวเยาวราช...วัดตึก...ขวดซื้อที่หลานหลวง...สะพานขาว...กำลังการผลิต 100-200 ขวด/เดือน...มีหลายขนาด ต่ำสุด 30 ม.ล. สูงสุด 340 ม.ล....หลายราคา...ต่ำสุดพิมเสนน้ำ 30 ...สูงสุดน้ำมะพร้าว 120 ...

ให้ในสิ่งที่เราชอบ...เพราะเคยอยู่วัดทำสมาธิ จำศีล ภาวนา...อยู่มาหลายจังหวัด...เลย สระบุรี เชียงราย...อยู่วัดไม่ค่อยใช้เงิน...เพราะห่างไกลตลาด...แม่ชีแนะนำให้ใช้สมุนไพร...ส้มป่อยสระผม...ขมิ้นไพรพอกหน้า...ตำลึงหมักผม...นานเข้า...สะสมเป็นความชอบ...จึงศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือ...รู้ว่าสมุนไพรไทยคือสุดยอดของดี ของมีค่า ของคนไทย...ตอนแรกทำใช้เอง...แต่อยากแบ่งปันของดีให้คนอื่นใช้บ้าง...เลยทำออกขาย...ไปฝากที่สถานีรถไฟแปดริ้ว...เขาบอกไม่ได้...ต้องเป็น OTOP เลยมาลงทะเบียนเมื่อปี 2547...

ล้มแล้วลุก...สู้แล้วรวย...
ช่วงแรกที่ทำออกขาย ไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ทำแล้วได้เลย...ต้องลองผิด ลองถูก อยู่นาน กว่าจะเข้าที่...บางครั้งส่วนผสมผิด ต้องเททิ้ง...แชมพูกวนเข้าที่แล้ว...ดันเหลวเป็นน้ำ...ทำไง...โน้นเลย...ถูห้องน้ำ ซักผ้า...ทำตามตำรา ใช่ว่าจะได้เสมอไป...แชมพูเหลว จับเป็นก้อนก็มี...อยากได้แบบนี้ กลับได้แบบนั้น...ที่สำคัญมันใช้ไม่ได้...แต่ไม่ท้อ ท้อไม่ได้ เพราะอยากทำของดีให้คนอื่นใช้...

ของดี มีไว้แบ่งปัน...
ประเภทบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผุดผ่อง เป็นยองใย นวลเนียน ใสสะอาด...ต้องโลชั่นว่านนางคำ โลชั่นว่านหางจระเข้ผสมใบบัวบก...หรือโลชั่นน้ำนมข้าวผสมว่านหางจระเข้...

ประเภทบำรุงเส้นผม ทำให้ผมชุ่มชื่น มีน้ำหนัก นุ่มสลวย เงางาม จัดทรงง่าย...ต้องแชมพูสมุนไพร มะรุม อัญชัน หางจระเข้ ทองพันชั่ง มะกรูด...ครีมนวดผมผสมใบตำลึง...สเปรย์บำรุงเส้นผม ป้องกันผมแห้ง แตกปลาย...

ประเภททำความสะอาดร่างกาย ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง นวลเนียน...ต้องสบู่เหลวผสมสมุนไพรชาเขียวและใบพลู...ครีมอาบน้ำสมุนไพรขมิ้น ว่านนางคำ น้ำผึ้งป่า...

ยังมีอีกหลายอย่าง...แป้งสมุนไพร...สมุนไพรไล่ยุง...ครีมสมุนไพรไพลสดแก้ปวดเมื่อย...สบู่ขัดผิวทานาคาขมิ้น...น้ำมันงา...น้ำมันมะพร้าว...และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนแต่ใช้สุดยอดสมุนไพรไทยทั้งนั้น...

ต้องสู้...จึงจะชนะ...
ผลิตภัณฑ์ทุกตัว ทุกขวดออกแบบฉลากเอง...
มีมาตรฐาน อย. หรือ มผช....จดทะเบียนพาณิชย์ ตราดอกกุหลาบ เพราะชอบ...จำหน่ายประจำที่ตลาด 100 ปี บ้านใหม่ ทุกวันเสาร์ อาทิตย์...ตลาดนัดเทศบาลเมืองทุกวันอังคาร/ศุกร์...งานเทศกาล...จังหวัดเคลื่อนที่...สั่งมาก ยินดีส่งทางไปรษณีย์...และสิ่งที่หวังมากที่สุด คือ การผลิตสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ...

ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดต่อคุณวรรณี...โทร.08-9883-5889 หรือ สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ฉะเชิงเทรา 0-3851-1239...

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สำนึกรักบ้านเกิดของทายาท อ.จุฬา-เกษตร ผลิตซอสหลากรส

วันนี้ผมขอพาไปรู้จักผู้ประกอบการรายใหม่...ลงทะเบียน OTOP ปีนี้เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs…ผลิตภัณฑ์ประเภทซอสปรุงรส...ใช้ประกอบต้ม ผัด แกง ทอด...ขอแนะนำให้รู้จักกับ บริษัท ชำนาญอาหาร จำกัด...ตั้งอยู่เลขที่ 106 หมู่ 3 ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์...คุณนิธิภา วนานุวัธ หรือคุณเงิน ผู้ช่วยผู้จัดการ...ลูกสาวคนสวยของเจ้าของบริษัท...จะเป็นผู้นำเสนอข้อมูลครับ...

เก่งสิ่งไหน ทำสิ่งนั้น...
ที่มาของธุรกิจมาจากคุณพ่อ คุณแม่...คุณพ่อ ดร.พงษ์ วนานุวัธ เชี่
ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์อาหาร...อดีตอาจารย์จุฬาฯ ผู้บริหาร อสร...ปัจจุบันผู้บริหารบริษัท กรไทย ...ผลิตครีมเทียม ขิงผง กะทิผง...คุณแม่ เนื้อทอง วนานุวัธ อาจารย์ ม.เกษตร...เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมเกษตร...มีลูก 3 คน ชื่อ แก้ว ...แหวน...เงิน....แก้ว ผู้ชายเป็นวิศวกร แหวนเป็นหมอ...ส่วนเงินจบคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ทำงานกับ อสร.มา 5 ปี...ก่อนออกมาทำธุรกิจของครอบครัว...

ดัง...ทางดี...
เราเลือกทำธุรกิจที่เราถนัด...เรามีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์อาหาร...เราทราบว่ากระแสของผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น....เราไม่มีสูตรดั้งเดิม...ครอบครัวเรานั่งคิดร่วมกัน...จะทำอะไรดี...มันต้องดีต่อสุขภาพ และไม่เน่าเสียง่าย...สุดท้ายลงตัวที่...ซีอิ้ว ...

ไม่รู้ว่าบินได้ จนกว่าจะกางปีกบิน...
คิดเสร็จ สร้างโรงงานเมื่อปี 2545...ไม่กู้เงินใคร ใช้ทุนส่วนตัวทั้งหมด...ปี 2547 จดทะเบียนบริษัท...ปี 2548 เริ่มผลิต ส่งขายให้โรงงานอื่น...รักษาคุณภาพให้มั่นคง...ปี 2550 เริ่มบรรจุขวด...วางแผนหาตลาดเอง ทั้งขายเองและส่งบริษัทอื่น...ปัญหาของเรา คือ ไม่มี Know How เรื่องบริหารและการตลาด…ช่วงบุกเบิก ต้องลองผิดลองถูก เสียเวลาเป็นปี...

ประตูแห่งความหวัง...
ปัจจุบัน เรามีคนงาน 8 คน กำลังการผลิต 80 ตันต่อเดือน...มีผลิตภัณฑ์ 4 อย่าง...หนึ่ง ซีอิ้วขาวสูตร 1 ตราเซียนเทา สำหรับแม่บ้าน...ส่งเข้าคัดสรร
OTOP ได้ระดับ 4 ดาว...สอง ซอสถั่วเหลือง ตราโมริโซย่า สำหรับผู้ชื่นชอบสไตล์ญี่ปุ่น...สาม ซอสปรุงรส ตราแมคเค สำหรับเด็ก...สี่ ซอสถั่วเหลืองออร์กานิค สำหรับกลุ่มชอบเกษตรอินทรีย์...ขนาดบรรจุ 200,300,700 มิลลิลิตร...แกลลอน 5 ก.ก. 30 ก.ก....มาตรฐานรับรอง อย. GMP และ Pre-HACCP…

จุดขายของเรา คือ เราหมักธรรมชาติ...
หมัก 1 ปี นานกว่าที่อื่น ทำให้มีกลิ่นหอมกว่า โปรตีนสูงกว่า...ไม่มีสารก่อ
มะเร็ง (3-MCPD) ใช้วัตถุดิบ Non-GMO's…ตลาดเรายังไม่กว้างขวางนักเราขายประจำที่โรงงาน...กับซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ แถวพระราม 3...และออกงานต่าง ๆ ที่ราชการและเอกชนจัด...ที่เรามาเป็น OTOP ก็หวังเป็นช่องทางให้คนรู้จักมากขึ้น...

จะประสบความสำเร็จ ต้องมีเป้าหมาย...
เราอยากส่งออก อยากให้ผู้บริโภครู้จัก...และอยากทำอาหารที่ปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค...นี่คือเป้าหมายในทางธุรกิจ...แต่เป้าหมายแรก ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำธุรกิจแล้ว...ในฐานะที่คุณแม่เป็นคนบ้านโพธิ์และมีที่ดินอยู่ที่นี่...เราจึงตัดสินใจว่า เราจะพัฒนาที่ดิน และสร้างธุรกิจครอบครัว...

ให้เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวบ้านโพธิ์ให้ได้....โปรดเป็นกำลังใจให้เราด้วย...สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเป็นตัวแทนจำหน่าย...ติดต่อ นิธิภา วนานุวัธ (คุณเงิน) โทร.08-1859-4107...หรือ สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.0-3851-1239...

จักสานระดับคุณภาพส่งออกจากอำเภอแปลงยาว

ฉบับนี้ ผมคุยกับ ป้ามานพ เมรสนัด...ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรวังเย็น อ.แปลงยาว...เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานชื่อดังของแปดริ้ว...ส่งออกต่างประเทศมาแล้ว...เชิญติดตามได้...ป้าเล่า ผมเขียนครับ...

ยืนหยัด ไม่ยอมล้ม...
ตั้งกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2525...เกษตร พัฒนาชุมชน มาช่วยตั้ง...สานตะกร้าไม้ไผ่ได้ แต่ไม่เก่ง ต้องเรียนเพิ่ม...ครู กศน.ช่วยสอน ดูงานที่พนัสนิคมแหล่งผลิตใหญ่...ล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย แต่ไม่ยอมล้ม...จนมาเป็น
OTOP เมื่อปี 2544 ได้ไปขายที่เมืองทอง...คนรู้จัก ทั้งไทย ทั้งเทศ ตามมาดูงานที่กลุ่ม ดังไปใหญ่...

กลุ่ม ไม่กลุ้ม...
สมาชิก 30 คน แบ่งเป็นฝ่าย ช่วยกันทำงาน...ฝ่ายผลิต ฝ่ายตลาด
ฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายประชาสัมพันธ์...มีระเบียบ มีทุน ทั้งหุ้นสมาชิก กู้และทุนประธาน รวมแล้วแสนกว่าบาท...ที่ทำการเอกเทศ เลขที่ 1/11 ม.1 ต.วังเย็น อยู่ในเขตบ้านป้า...ประชุมกันบ่อย เอางานมาส่ง ประชุมด้วย ปีละหลายหน...สามัคคีกันดี ไม่มีปัญหาอะไรให้กลุ้มใจ...

ผลิตตามสั่ง...
ลูกค้าอยากได้แบบไหน บอกมา...เราเรียกสมาชิกรวมตัว คิดระดมสมอง...ออกแบบ ทำพิมพ์ แล้วก็สาน...สมาชิกบางคนเก่งมาก างมีสมาชิกเก่งเก่งหลายคน พวกนี้สานได้หมด ทุกแบบ ทุกลาย.....ออกแบบได้ สานได้ ทุกแบบ ทุกลาย...ป้าคิดเองก็มี ส่วนใหญ่เน้นแนวคิดจากประโยชน์ใช้สอย...วัตถุดิบ ไม้ไผ่ หวาย สี น้ำมันสน มาจากพนัสนิคม...ก้านมะพร้าว มาจากแถวนี้ แปลงยาว บางคล้า แปดริ้ว...

มอดไม่กิน...
ขั้นตอนการทำ ต้องเริ่มทำโครงสร้างก่อน...จากนั้นเหลา จักตอก ขูดผิว ถัก ผูก มัด สาน ใส่พื้น...มอบปาก เข้าขอบก้นตะกร้า จูงนางปาก พันหู ทาน้ำมัน...จุดเด่น มอดไม่กิน ป้าขอบอก...

ไฮโซ โลโซ...
จุดเด่น อยู่ที่ประโยชน์ใช้สอย สวย ทน...ของใช้สอย ฝาชี ตะกร้า กระจาด กระด้ง กระติ๊บ กระเช้า พวกนี้ขายดี...ของทำตามสั่ง ชะลอม กล่อง ตะกร้า เป็นส่วนใหญ่...ของหรู กระเป๋าหวาย ผักตบชวา ตะกร้ายกดอก ตะกร้าคุณนาย...เคยส่งคัดสรร
OTOP ระดับประเทศ ได้ 5 ดาว มาแล้ว...พวกนี้ราคาสูง หลักหลายร้อยจนถึงหลักพัน ฝีมือต้องดี งานละเอียด...งานของป้า ใช้ได้ทั้งไฮโซ และโลโซ...ส่วนตัวใหม่ที่จะทำ คือ โคมไฟ ตอนนี้กำลังออกแบบอยู่...

ขายนอก...
ป้าขายประจำที่ที่การทำกลุ่ม...ร้านค้าหน้าอำเภอแปลงยาว...ตลาดน้ำบางคล้า ทุกเสาร์ อาทิตย์...งานของหน่วยราชการ เอกชนที่เขาจัด ป้าก็ไป...ตลาดต่างประเทศ เราส่งออกไปญี่ปุ่น เดนมาร์ก...ส่วนใหญ่เป็นตะกร้าไวน์ ตะกร้าขนม ตะกร้ากล่องใส่สบู่...เขารู้จักเรา จากนามบัตรตอนไปขายที่เมืองทอง จากอินเตอร์เน็ตด้วย...

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ...
ใจรักในงานจักสาน เสียสละส่วนตัวเพื่อส่วนรวม...ความพร้อมในครอบครัว ความภาคภูมิใจที่ทำเพื่อชุมชน...นี่คือ ปัจจัยที่ทำให้ป้าและกลุ่มดำเนินงานมาจนถึงทุกวันนี้...
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ป้ามานพ เมรสนัด โทร.08-9962-8667 หรือสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.038-511239